แก่นของวิชาเคนโด้ คือ การนำ ดาบ จิตใจ และร่างกาย มารวมกันเป็นหนึ่ง ใช้ การโจมตีโดยดาบไม้ไผ่ หรือชินัย ที่มีกายและใจผสานหลอมรวมอยู่ในนั้น จิตอันเป็นหนึ่งเดียวจะชนะคู่แข่งได้ในพริบตานั้นเรียกว่า อิทโชะคุ อิตโต” ถือเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่เกิดจากการใช้พลังเพียงชั่วหายใจ ผู้ที่ฝึกเคนโด้อย่างลึกซึ้งถึงแก่นของเคนโด้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุเพียงไหนก็สามารถ หากใช้หลักการนี้จะเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีร่างกายแข็งแรงกว่าได้อย่างง่ายดาย
เคนโด้ มีรูปแบบการเล่นและวิธีการเล่นอยู่สองส่วน
ส่วนที่หนึ่งที่ เป็นการฝึกท่ารำ การรำนี้เรียกว่า คาตะ ผู้ที่รำคาตะจะต้องเป็นผู้ที่มีสมาธิมั่นคง มีจิตที่มั่น สมาธิถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการรำจะมีผู้ฝึกเคนโดจำนวนสองคน ผลัดกันรุกและรับ
ส่วนที่สองจะเป็นการต่อสู้ของผู้ฝึกเคนโด้ โดยจะต้องใส่ชุดเกราะเรียกว่า “โบกู” ใช้ดาบไม้ไผ่เป็นอาวุธ ที่เรียกว่า ชินนัย
ในการเล่นเคนโด้ ผู้เล่นจะต้องเข้าฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ประเภทนี้จะต้องเริ่มฝึกจากท่ารำคาตะก่อน ตามด้วยการฝึกแบบใส่ชุดเกราะ ก่อนที่จะใส่ชุดเกราะจะต้องมีการสวมชุดอีกชุดหนึ่งข้างในก่อน ชุดนี้จะประกอบด้วยเสื้อเคนโดกิ และกางเกง ฮากามะ
กฎ กติกา
ผู้เข้าแข่งขันจะถูกแบ่งเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่ายแดงและขาว ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะมีผ้าสีห้อยอยู้ด้านหลังเพื่อให้รู้ว่าอยู่ฝ่ายใด
1.ประเภทบุคคลหญิงและบุคคลชาย แข่งขันใช้เวลาการแข่งขัน 3 นาทีตัดสินโดยผู้ที่ทำคะแนนได้ 2 ใน 3 คะแนนในเวลาดังกล่าวถือเป็นผู้ชน
2.ประเภททีมแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายล่ะ 3-5 คน แต่ล่ะทีมจะประกบคู่เล่นลงแข่ง การแข่งขันคล้ายกับประเภทบุคคล ถ้าทีมใดมีผู้ชนะ 2 ใน3 คนถือเป็นผู้ชนะ
จุดทำคะแนน
เมื่อฝึกจนได้เข้าทำการแข่งขันแล้ว ในการแข่งขันผู้เล่นจะต้องตีให้ถูกจุดทำคะแนนทั้งสามจุดนั่นคือศีรษะ ข้อมือ และลำตัว
วิธีการคิดคะแนนในการตัดสิน
ผู้เข้าแข่งขันคนใดได้สองคะแนนจากกรรมการก่อนจะเป็นผู้ชนะ
สนามในการแข่งเคนโด้
สนามที่ใช้ในการฝึกต้องจะต้องเป็นพื้นที่เรียบและเป็นพื้นไม้ที่อยู่ในที่ร่ม มีการตีกรอบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 6 x 6 หรือ 8 x 8 เมตร และจะทำการต่อสู้กันภายในกรอบหากผู้ใดที่ก้าวออกนอกกรอบจะโดนตัดคะแนน