“เคนโด้” เป็นศิลปะการต้อสู้ป้องกันตัวของคนญี่ปุ่น มีที่มาจากการใช้ดาบของเหล่าซามูไร ตกทอดมาตั้งแต่ พ.ศ. 1332 เคนโด ความหมายคือ วิถีแห่งดาบ ใช้ดาบไม่ไผ่ในการฝึก มีกระบวนท่าในการรุก รับ รวดเร็ว เด็ดขาด ต่อเนื่อง
เคนโด้ ถือกำเนิดเกิดขึ้นพร้อมๆกับซามูไร สมัยเฮอันเคียว( 794 – 1185 ) จวบจนกระทั่งในสมัยเอโดะ( 1603 – 1868 )วิชาดาบเคนโด้ได้พัฒนารูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองมากขึ้น มีการแต่งกายและอุปกรณ์เกิดขึ้นเป็นระบบและเป็นมาตรฐานมากกว่าแต่ก่อนและใช้กันอย่างกว้างขวางเวลาต่อมา ในยุคนี้ที่เคนโด้ได้กลายเป็นวิชาดาบอีกแขนงที่แยกออกมาจากเคนจัตซึอย่างชัดเจน อีกทั้งเคนโด้ได้ใช้เป็นหนึ่งในหลายๆวิชาเพื่อทำการสอบคัดเลือกแก่ผู้ที่จะมาเป็นซามูไรโดยการแต่งกายและอุปกรณ์ยังคงใช้กันมาจนถึงปัจจุบันแม้รายละเอียดและวัสดุบางอย่างอาจแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
เมื่อสงครามโลกครั้งที่สิ้นสุดลงญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงคราม ฝ่ายพันธมิตรได้สั่งห้ามคนญี่ปุ่นทำการฝึกเคนโด้เด็ดอย่างเด็ดขาดขาด เนื่องด้วยเกรงว่าจะเป็นการปลูกฝังลัทธิทางทหารแก่คนญี่ปุ่น ภายหลังได้มีการทำสนธิสัญญา San Fransico Peace Treatyขึ้น เคนโด้จึงถูกนำมาฝึกอีกครั้งโดยในช่วงแรกๆใช้ชื่อว่า ชินัยเคียวจิ และกลับมาเป็นชื่อเคนโด้อีกครั้งในปี 1952 หลังจากนั้น เคนโด้ก็ได้ถูกบรรจุเป็นหลักสูตรในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และมีการ ดัดแปลงแก้ไขกติกาบางอย่างเพื่อให้มีรูปแบบเป็นกีฬามากขึ้นและเพื่อความเหมาะสม อย่างไรก็ตามตามเคนโด้ก็ยังคงไว้ซึ่งปรัชญาทางพระพุทธศาสนา ลัทธิชินโต ไว้อย่างเหนียวแน่น หากผู้ที่ศึกษามีความตั้งใจอย่างจริงจังที่จะฝึกฝนจึงจะบรรลุผลให้เห็นขึ้นมา
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นเคนโด้ ประกอบไปด้วย
อุปกรณ์และเครื่องแบบ เคนโด้ (Kendo)
1.ดาบไม้ไผ่ (Shinai : ชินัย) เป็นดาบที่ทำขึ้นจากไม้ไผ่ 4 แผ่น นำมามัดรวมกันด้วยเชือกหนัง ใช้สำหรับฝึกฝนทั่วไป
2.ดาบไม้ (Bokuto : โบคุโต) เป็นดาบที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง ใช้ในการฝึกที่เป็นทางการ
3.เสื้อ (Keigoki : เคย์โกกิ)
4.กางเกง (Hakama : ฮากามะ)
5.เสื้อเกราะ (Boku : โบกุ) มีทั้งหมด 4 ชิ้น คือ หัว(Men : เม็ง) ตัว(Do : โด) ข้อมือ(Kote : โคเทะ) และส่วนสะโพก(Tare : ทาเระ)
ปัจจุบันเคนโด้กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศไทยหลังจากที่ละครเรื่อง The rising sun รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน และ รอยฝันตะวันเดือด ของสองหนุ่ม มาริโอ้ และ ณเดชน์ ออกอากาศ เคนโด้ได้รับความนิยมขึ้นอย่างมากมายกลายเป็นกระแส เคนโด ตามมา